PROSTATE CANCER

23456 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มะเร็งต่อมลูกหมาก

มะเร็งต่อมลูกหมาก

(Prostate Cancer)

 

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ เชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์รู้จักภัยเงียบของมะเร็งต่อมลูกหมาก

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยในชายไทย ปัจจุบันพบมากเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งที่พบทั้งหมดในเพศชาย จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทยโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ  รายงานผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากรายใหม่ประมาณ 3,700 รายต่อปี หรือมีอุบัติการณ์ 7.7 รายต่อประชากร 100,000 คน 

สำหรับการเสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมาก กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมากประมาณ 1,700 ราย 

ปัจจุบันสาเหตุของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีการศึกษาวิจัยพบว่ามีปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรค เช่น อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า มะเร็งต่อมลูกหมากเกิดจากเซลล์หรือเนื้อเยื่อภายในต่อมลูกหมากเจริญเติบโต และมีการแบ่งตัวที่ผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้ ในระยะเริ่มแรกอาจไม่แสดงอาการ  แต่เมื่อมะเร็งลุกลามมากขึ้นอาจทำให้เกิดการกดทับบริเวณท่อปัสสาวะ เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยมักมีปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะไม่ออก หรือปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่พุ่งหรือหยุดเป็นช่วง ๆ รู้สึกปวดเมื่อปัสสาวะ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามอาการของมะเร็งต่อมลูกหมากอาจคล้ายกับโรคต่อมลูกหมากโต หรือปัญหาอื่น ๆ ของต่อมลูกหมากก็ได้ ดังนั้น ผู้ป่วยควรสังเกตความผิดปกติของร่างกาย และรีบปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจโรคได้อย่างถูกต้อง

ปัจจุบันการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือการตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากมีหลายวิธี เช่น การเจาะเลือดเพื่อหาสารบ่งชี้มะเร็งในต่อมลูกหมาก (Prostate specific Antigen: PSA) การตรวจทางทวารหนักโดยแพทย์จะใช้นิ้วสอดไปในทวารหนักเพื่อตรวจคลำดูว่าพื้นผิวรูปร่างและขนาดของต่อมลูกหมากมีความผิดปกติใด ๆ หรือไม่ ผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ก้อนมะเร็งอาจมีขนาดเล็กและยังไม่ลุกลามแพร่กระจ่ายไปสู่อวัยวะอื่น ทำให้การวินิจฉัยและรักษาทำได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ส่งผลให้การรักษาได้ผลดีมีโอกาสหายขาดจากโรคสูงขึ้น

 


มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) เป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับต้นๆ ในผู้ชายไทย โดยอาการที่เป็นสัญญาณเตือนถึงความเป็นไปได้ว่า จะเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ได้แก่ ปวดปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่พุ่ง รวมถึงอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปัสสาวะมีเลือดปน หรือมีอาการปวดเมื่อปัสสาวะ หากท่านมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาที่จะเริ่มตรวจสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม มะเร็งต่อมลูกหมายถึงเป็นภัยเงียบที่ผู้ชายบางท่านอาจไม่รู้ตัว เนื่องจากในบางท่านอาจไม่แสดงอาการใดๆเลย หรือไม่มีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจนในเบื้องต้น กว่าจะตรวจพบก็เป็นมากหรือลุกลามไปสู่อวัยวะสำคัญอื่นๆ ของร่างกาย

มะเร็งต่อมลูกหมากมีอัตราการเกิดในผู้ชายไทยสูงขึ้นทุกปี

อีกหนึ่งโรคที่ดูเหมือนจะยอดฮิตแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวในสังคมไทยก็คือมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่พบว่ามีอัตราการเกิดในผู้ชายไทยสูงขึ้นทุกปี ถึงแม้จะพบไม่บ่อย แต่ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังพบอีกว่าโรคดังกล่าวพบมากเป็นอันดับ 4 ของผู้ชายไทยอีกด้วย

โดยทั่วไปโรคมะเร็งต่อมลูกหมากจะเกิดกับผู้ชายสูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป

และที่เห็นว่าในชายไทยมีอัตราการเกิดโรคนี้เพิ่มขึ้นก็อาจแสดงให้เห็นถึงผู้ชายไทยมีอายุยืนเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง เพราะถ้าหากอายุไม่ยืนก็จะไม่เป็นโรคนี้

ส่วนข้อสงสัยที่ว่าในคนเอเชียมีโอกาสเป็นมากกว่าคนยุโรปหรือไม่นั้น

ความจริงแล้วกลับพบว่าคนในยุโรปมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากสูงกว่าคนเอเชียเสียอีก สาเหตุหนึ่งที่สำคัญน่าจะมาจากอาหาร อย่างในคนญี่ปุ่นที่ทานปลากับถั่ว พบว่ามีอัตราการเกิดโรคดังกล่าวน้อยมาก แต่ถ้าหากลองไปสำรวจในคนญี่ปุ่นที่อพยพไปอยู่ทรานฟรานซิสโก กลับพบว่ามีอัตราการเกิดโรคนี้สูงเทียบเท่ากับคนยุโรป แม้ว่าจะไม่ได้แต่งงานกับคนยุโรปเลยก็ตาม จึงคาดการณ์ว่าน่าจะมาจากอาหารที่เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งต่อการเกิดโรค

ส่วนในแถบสแกนดิเนเวียพบว่ามีผู้ที่เป็นโรคนี้ในอัตราสูง ทั้งยังมีการสันนิษฐานไว้ว่าอาจเกี่ยวกับวิตามินดีด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าวิตามินดีเกี่ยวข้องหรือส่งผลต่อการเกิดโรคหรือไม่ ยังคงเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น นอกจากนี้ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีส่วนด้วยเช่นกัน และจากการศึกษาพบว่าในต่างประเทศมีอัตราการเกิดโรคเป็น 16.72% ในผู้ชายทั่วไป


โดยปกติเมื่อผู้ชายอายุมากขึ้นประมาณ 50 ปีจะมีอาการปัสสาวะลำบาก

ซึ่งมะเร็งต่อมลูกหมากอาจแฝงมาหรืออาจเป็นต่อมลูกหมากโต เบื้องต้นควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการ โดยแพทย์จะทำการคลำก้นและถ้าเจอก้อนก็จะดูว่าขรุขระและแข็งหรือไม่ หากไม่ก็จะทำการติดตามอาการต่อไป แต่ถ้าหากใช่นั่นก็อาจเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้

โดยทั่วไปยังสามารถสังเกตได้ที่ค่า PHA ซึ่งเป็นสารโปรตีนที่สร้างจากต่อมลูกหมาก ค่าที่ดีไม่ควรเกิน 4 แต่ถ้าเกินก็จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ในขณะเดียวกันต่อมลูกหมากโตก็ทำให้สร้าง PHA ได้มากเช่นกัน

 

 

อาการทั่วไปที่ส่งสัญญาณได้แก่

ไม่สามารถปัสสาวะได้ ปัสสาวะต้องเบ่งนาน ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน ปัสสาวะอ่อนแรง อาจปวด แสบ ระหว่างการถ่ายปัสสาวะ และถ้าหากมีญาติเป็นโรคนี้ด้วยก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูง

โดยทั่วไปมะเร็งต่อมลูกหมากจะมีปัญหาต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ มีเลือดปนในปัสสาวะ หรือปนกับอสุจิ และอาจพบได้ว่ามีอาการปวดบริเวณหลังส่วนล่างหรือต้นขา ทั้งนี้สำหรับการแข็งตัวยังพบว่าอาจไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็งโดยตรง เว้นแต่เป็นมากๆ จนไปกินเส้นประสาท ก็จะทำให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศลดลงแต่บางครั้งอาการนี้อาจส่อถึงโรคหัว และหลอดเลือด และหัวใจได้ด้วย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคนี้มากกว่าโรคมะเร็งด้วยซ้ำไป


ต่อมลูกหมาก เป็นอวัยวะที่อยู่ค่อนมาทางด้านล่างระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ทำหน้าที่ผลิตน้ำเมือก และน้ำหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ จึงถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย

 



ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก

ปัจจุบัน แพทย์พบว่าอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมีเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค ได้แก่

  • อายุ ยิ่งอายุมากขึ้น โอกาสเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากก็ยิ่งสูงขึ้น ส่วนใหญ่จะพบมากในผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • พันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติบิดาหรือพี่น้องเคยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากจะมีโอกาสเสี่ยงกว่าคนทั่วไป
  • เชื้อชาติ พบมากในกลุ่มชายชาวตะวันตกทั้งในยุโรปและอเมริกา ขณะที่ชาวเอเชียพบได้น้อยกว่า
  • อาหาร การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ให้พลังงานสูง และอาหารจำพวกเนื้อแดงอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้

 

 

อาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก

มะเร็งต่อมลูกหมากในระยะแรกมักไม่แสดงอาการใดๆ แต่เมื่อมะเร็งขยายตัวมากขึ้นจนไปกดทับท่อปัสสาวะ จะทำให้เกิดอาการแปรปรวนของระบบทางเดินกระเพาะปัสสาวะส่วนล่าง เช่น ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะช่วงกลางคืน มีอาการแสบขัดขณะปัสสาวะ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะไม่พุ่งหรือต้องใช้เวลาในการเบ่ง หากปล่อยทิ้งไว้ผู้ป่วยจะปัสสาวะลำบาก และบ่อยขึ้น จนถึงขั้นปัสสาวะเป็นเลือดได้

มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นโรคที่พบได้มากในเพศชาย ดังนั้นการตรวจร่างกายประจำปีจึงเป็นสิ่งที่ผู้ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปไม่ควรละเลย เพราะทำให้พบมะเร็งต่อมลูกหมากได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัจจัยเสี่ยง

มะเร็งต่อมลูกหมาก

ระยะของมะเร็งกำหนดจากตำแหน่งของเซลล์มะเร็ง การแพร่กระจายของมะเร็ง และการทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะร่างกาย ระยะของมะเร็งมีความสำคัญต่อการรักษาเพราะจะช่วยให้แพทย์หาวิธีการรักษาที่เหมาะสม ส่งผลต่อการหายของโรค การมีชีวิตที่ยืนยาวหรือดำรงชีวิตได้ดีขึ้น

มะเร็งต่อมลูกหมากแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 เป็นระยะเริ่มต้น พบมะเร็งเฉพาะในต่อมลูกหมากเพียงกลีบเดียว และยังไม่มีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

ระยะที่ 2 ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดยพบทั้งสองกลีบของต่อมลูกหมาก ยังไม่มีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

ระยะที่ 3 เซลล์มะเร็งมีการแพร่กระจายออกมาที่ผิวด้านนอกของต่อมลูกหมาก และอาจลุกลามเข้าท่อน้ำเชื้อด้านข้าง

ระยะที่ 4 เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังกระดูก และต่อมน้ำเหลือง


ปัจจัยเสี่ยงมีอะไรบ้าง

  • อายุ อายุที่มากขึ้นยิ่งพบได้มากขึ้น มักพบในคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • เชื้อชาติ พบได้บ่อยในชายผิวดำและชาวตะวันตก ในขณะที่ชาวเอเชียพบได้น้อยกว่า
  • กรรมพันธุ์ โรคมะเร็งต่อมลูกหมากประมาณ 15-20% ถ่ายทอดทางยีน คนที่มีประวัติครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากจะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนปกติ
  • อาหาร  เช่น อาหารที่มีไขมันทรานส์ ใช้น้ำมันทอดซ้ำ และเนื้อแดง

อาการเตือนมะเร็งต่อมลูกหมากมีอะไรบ้าง

ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยสาเหตุ 3 ประการ ได้แก่

  • ไม่มีอาการใดๆ แต่ค่าตรวจคัดกรองแล้วพบว่ามีสารบ่งชี้มะเร็ง (PSA) สูงกว่าปกติ
  • มีอาการทางปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะลำบาก และบ่อยขึ้น จนถึงปัสสาวะเป็นเลือดได้
  • มีอาการกดเบียดอวัยวะอื่นๆ เนื่องจากมะเร็งลุกลาม อาการจะแตกต่างกันตามอวัยวะที่มะเร็งแพร่กระจายไป
 

 

 


ถ้าคุณกำลังป่วยเป็นมะเร็ง   
   กำลัง หมดหวัง ท้อแท้    
เปิดใจ ชมคลิปนี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษามะเร็ง 
ทางเลือกใหม่.....ของการรักษามะเร็ง
ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง....... ไม่ให้ลุกลาม
เป็นการรักษามะเร็ง ด้วยวิธี ปลอดภัย

 
 
 
 
ไขข้อข้องใจ
สารสกัดเซซามิน......จากงาดำ เข้าไปทำอะไรกับ เซลล์มะเร็ง
 
 
หมอที่เก่งที่สุดในโลก คือ ร่างกายมนุษย์
หมอที่เก่งที่สุดในร่างกายมนุษย์ คือ "ภูมิคุ้มกัน"

สรุป สารสกัดเซซามิน (Sesamin)  
  เข้าไปทำอะไรกับ เซลล์มะเร็ง
 
 
 
 
 
 
เซลล์มะเร็ง คือเซลล์ที่อยู่ในร่างกายเรา ที่มีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เซลล์มะเร็ง มีการกระจายตัว มันสามารถส่งสารไปกระตุ้นให้เส้นเลือดงอกเส้นเลือดมาที่ตัวก้อนมะเร็ง แล้วส่งอาหาร จากทางเส้นเลือดเพื่อไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง จากการศึกษา ในหลอดทดลองจากห้องแลป เซซามินไปปิดกั้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ ที่จะไปหล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งไม่ได้รับอาหาร

เซซามิน (Sesamin) ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง IL2 ( ซึ่งสาร IL2 ตัวนี้ สหรัฐอเมริกายอมรับว่าเป็นสารที่สามารถไปยับยั้งเซลล์มะเร็ง) ซึ่งสาร IL2 นี้แหละที่จะทำให้เม็ดเลือดขาวหรือภูมิคุ้มกันของเราทำงานได้ดีขึ้น และไปจัดการกับเซลล์มะเร็ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไปกระตุ้นบนผิวเซลล์ แล้วส่งสัญญาณเข้าไปภายในเซลล์มะเร็ง มันถูกยับยั้งโดยสารเซซามิน เป็นการอธิบายถึงกลไกภายในเซลล์วิจัยถึงระดับโมเลกุล

เซซามิน (Sesamin) ยังไปทำให้เซลล์มะเร็งตาย เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายถูกโปรแกรมมาให้เกิดขึ้นและ มีอายุ แล้วก็จะตายไป ยกเว้นเซลล์มะเร็ง ที่มันสามารถ มีอายุและเจริญเติบโตขยายตัวได้โดยไม่มีการตายหรือไม่เข้าสู่ Program Cell Dead เซซามิน สามารถไปแก้โปรแกรมให้เซลล์มะเร็ง เข้าสู่ Program Cell Death หรือฆ่าตัวตาย
 
 
 
เป็นมะเร็งอาจดูน่ากลัว
เมื่อเป็นแล้ว อาจเสียชีวิตได้
 
วันนี้!!! ป้องกันได้ ด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ แต่วันนี้วิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง มีการใช้สารสกัดจากอาหารนำมาทานเพื่อดูแลฟื้นฟูเซลล์ภายในร่างกาย แต่ให้ประสิทธิผลดีกว่ายา

ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิศวกรรมเนื้อเยื่อและเซลล์ต้นกำเนิด คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ค้นคว้ามากว่า 20 ปี จนกระทั่งคิดค้นสารสกัดเซซามิน ที่สามารถฟื้นฟูเซลล์ภายในร่างกายได้ เป็นครั้งแรกของโลก
 


 นักวิจัยไทย ค้นพบ
สารเซซามินในงาดำ ครั้งแรกของโลก
 

 

 

ข่าวการค้นพบสารเซซามินจากงาดำ เป็นผลงานวิจัยของ ม.เชียงใหม่  การค้นพบในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ถือว่าเป็นการพัฒนาไปอีกก้าวของวงการแพทย์ไทย และที่สำคัญ นี่เป็นครั้งแรกของโลก ที่พบว่าสารเซซามิน (Sesamin) ที่พบนั้นจะไปยั้บยั้งการฟื้นฟูเซลล์จากการถูกทำลาย หรือพูดง่ายๆ ว่า มีโอกาสที่จะใช้ในการยับยั้งมะเร็งได้ด้วย

 


สารสกัด...เซซามิน  เข้าไปทำอะไรกับ เซลล์มะเร็ง   
คลิ๊ก.....ชมคลิปนี้ !!!

 

 

สุดยอดงานวิจัยไทย
ค้นพบ 4 คุณสมบัติสำคัญ
เซซามิน สารสกัดจากงาดำ

  

 

ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ นักวิจัย ม.เชียงใหม่
ค้นพบ "สารสกัดเซซามิน (Sesamin)"
จากงาดำ....ทำลายเซลล์มะเร็ง

 

 

คณะนักวิจัยที่ค้นพบสรรพคุณ ของสารสกัดเซซามิน (Sesamin) ในเมล็ดงาเมล็ดเล็กๆ นี้นำทีมโดย ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ผู้ทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตของท่านอยู่ในห้องทดลอง เพื่อค้นคว้าหาหนทางใหม่ๆ มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

 

 

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยยั้บยั้งการอักเสบ

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยลดทั้งการสังเคราะห์และลดการดูดซึมสารโคเรสเตอรอล

สารเซซามิน (Sesamin) ทำให้มะเร็งบางชนิดเข้าสู่ขบวนการทางชีวเคมีที่ทำให้เซลล์ตาย

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยยั้บยั้งการลุกลามของมะเร็ง

สารเซซามิน (Sesamin) กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสาร IL2 และ IFN-Gramma จากเม็ดเลือดขาว

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยดูแลเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือด

สารเซซามิน (Sesamin) ทำหน้าที่ช่วยเผาผลาญกรดไขมัน

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยทำให้ วิตตามิน E ทำงานได้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยลดอาการปวด และอักเสบบริเวณต่างๆ ของร่างกาย

สารเซซามิน (Sesamin) ลดการเสื่อมสลายของข้อกระดูก และกระดูกอ่อน

สารเซซามิน (Sesamin) กระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างกระดูก

สารเซซามิน (Sesamin) ยับยั้งการดูดซึมและสังเคราะห์โคเลสเตอรอลภายในร่างกาย

สารเซซามิน (Sesamin) มีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต

สารเซซามิน (Sesamin) ช่วยในการกำจัดสารพิษของตับ

สารเซซามิน (Sesamin) กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

สารเซซามิน (Sesamin) มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยเสริมฤทธิ์ของวิตามินอีให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



นอกจากนี้ยังมีงานวิจัย ที่ได้ทำการศึกษาที่หน่วยวิจัยมที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อและเซลล์ต้นกำเนิด
(Thailand Excellence Center for Tissue Engineering and Stem Cells) พบว่า

 

1. สารสกัดเซซามิน สามารถยับยั้งการทำงานของสารสื่ออักเสบ ชนิด IL-1 Beta ได้ โดยการศึกษา ได้ทำการวิจัยในเซลล์กระดูกอ่อนที่ถูกกระตุ้นด้วย IL-1 Beta และ เซซามิน (Sesamin) จากนั้นทำการศึกษาระดับโมเลกุล และพบว่า สารเซซามิน (Sesamin) สามารถยับยั้งการออกฤทธิ์ของ IL-1 Beta ได้ เป็นผลทำให้มีการลดลงของเอนไซม์ MMP13 ที่ไปย่อยสลายคอลลาเจน และสารชีวโมเลกุลอื่นในกระดูกอ่อน ได้อย่างชัดเจน

 

 

2. สารสกัดเซซามิน สามารถลดปริมาณการสร้าง หรือสังเคราะห์ของสารสื่ออักเสบชนิด Interleukin-1 Beta และ Tumor Necrosis Factor-Alpha ได้ ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาวิจัย โดยการกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวด้วยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ซึ่งเป็นผลทำให้การหลั่งสารสื่ออักเสบเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อได้รับสารสกัดเซซามิน (Sesamin) ร่วมด้วย จะทำให้มีการสร้าง และปล่อยสารสื่ออักเสบ IL-1 Beta ออกมาลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แสดงดังรูป

 

 

จากรูปแสดงให้เห็นว่า สารสกัดงาดำ เซซามิน สามารถยับยั้งการสร้างและปล่อยสารสื่ออักเสบออกมาจากเม็ดเลือดขาว

 

3. เมื่อทำการศึกษาวิจัยในอาสาสมัคร โดยให้กินแคปซูลงาดำ รำข้าวสีนิล และแป้งข้าวหอมมะลิที่ผ่านขบวนการนึ่งพิเศษ ขนาดบรรจุ 500 mg. จำนวน 2 แคปซูล ตอนเช้า และเย็น เป็นระยะเวลา 15 วัน เพื่อทำการตรวจสอบการแสดงออกของยีนส์ ที่สร้างสารชีวโมเลกุลชนิด Interleukin-2(IL-2) ซึ่งเป็นสารชีวโมเลกุลที่ผลิตขึ้นมาจากเม็ดเลือดขาว และมีคุณสมบัติที่สามารถไปกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น ซึ่งพบว่า มีการเพิ่มขึ้นของ Cytokines ทั้งสองชนิดในเลือดของอาสาสมัครทุกคน แสดงดังรูป

 


 

 

สารสกัดเซซามิน (Sesamin)  คือ สารสกัดงาดำและธัญพืชสูตรที่ดีที่สุด 

เป็นผลงานวิจัยของนักวิจัยดีเด่น ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยที่มีความเป็นเลิศ ทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อและเซลล์ต้นกำเนิด คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

เป็นนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ ระดับโมเลกุลของไทย ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้ยอมรับในเชิงวิชาการ โดยการได้จดสิทธิบัตรระดับโลก สามารถจัดจำหน่ายได้กว่า 78 ประเทศทั่วโลก

ปัจจุบันได้จดสิทธิบัตรเฉพาะประเทศ คือ ประเทศไทย มาเลเซีย และกัมพูชา เป็นที่เรียบร้อย

 

 

สารสกัดเซซามิน SESAMIN เหมาะกับใครบ้าง?

  • ผู้ที่ต้องการลดผลข้างเคียงในระหว่างการให้คีโม หรือ ฉายแสง ทำให้เกิดอาการแพ้น้อยลง
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกันของตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยให้ร่างกายตอบรับการรักษามะเร็ง
  • ผู้ที่ไม่สามารถใช้ คีโม หรือ ฉายแสง ในการรักษามะเร็งด้วยตัวเองได้
  • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดเนื้อร้าย ในการรักษามะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีผลข้างเคียงในการรักษามะเร็ง
  • ผู้ที่คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นเนื้อร้าย หรือ มะเร็ง เนื้องอก ซีส
  • ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง และ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง
  • ผู้ที่มีปัญหาเม็ดเลือดขาวตก ไม่สามารถให้คีโมได้
     

 

มะเร็ง....ทุกระยะมีพิษร้ายแรง
อย่ารอให้ถึงระยะสุดท้ายแล้วค่อยรักษา
ตัดสินใจช้าอาจจะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของคุณ
>>>แต่มีโอกาสรอดถ้าคุณรีบตัดสินใจ

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com